วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558
จับหนุ่ม18 ข่มขืนฆ่าสาว39 เมายาดอง บีบคอดับ-ลากทิ้งคลอง
ตร.นครปฐม ใช้เวลาวันเดียวล่าฆาตกรโหดฆ่าสาววัย39ปีทิ้งคลองบางเตย ผู้ต้องหาอายุแค่18ปีที่มาร่วมกินยาดองแล้วอาสาไปส่งผู้ตาย แต่กลับพาไปข่มขืน เหยื่อขัดขืนเลยบีบคอดับ ผู้การฯ ส่งตรวจดีเอ็นเอ เผยมีพฤติกรรมชอบคนแก่ เหมือนโจรโรคจิต...
เมื่อวันที่ 8 พ.ย.58 ที่หน้าสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.รัตนะ ปาลจันทร์ รอง ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ.อุดม เปี่ยมศักดิ์ ผกก.กสส.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รอง ผกก.กสส. พ.ต.ท.ภาณุทัต เหลืองสัจจะกุล สว.สส. สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.มนตรี จ่าน้ำเที่ยง สว.สส.สภ.เมืองนครปฐม พ.ต.ท.คุรุพงษ์ แก้วสะอาด สวป.สภ.เมืองนครปฐม พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายตี๋ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ผู้ต้องหาที่ศาลนครปฐมออกหมายจับ ลงวันที่ 7 พ.ย.58 ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่น โดยใช้กำลังประทุษร้ายเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย หลังเข้าจับกุมได้ที่ถนนในหมู่บ้านปฐมทอง หมู่ 3 ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม นำตัวดำเนินคดี
พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช ผบก.ภ.จว.นครปฐม เปิดเผยว่า จากกรณีที่ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.58 เวลา 07.30 น. ชาวบ้านพบศพ น.ส.น้อย(นามสมมติ) อายุ 39 ปี ชาวบ้านหมู่ 2 ต.วังตะกู อ.เมืองนครปฐม เสียชีวิตลอยอยู่ในคลองบางเตย อยู่ในสภาพสวมยกทรงสีดำตัวเดียว ท่อนล่างเปลือยเปล่า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบรถของผู้ตายถูกนำไปทิ้งในคลองบางแก้วห่างจากจุดพบศพ 2 กิโลเมตร ไม่พบบาดแผลจากการถูกทำร้ายหรือต่อสู้ พบแต่รอยลากบริเวณริมศาลาที่พักผ่อนริมคลองหลังวัดเกาะวังไทร ต.ถนนขาด อ.เมืองนครปฐม
จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญสามีของผู้ตายมาสอบถาม ทราบว่า ในตอนค่ำของวันที่ 6 พ.ย.58 ภรรยาได้ขอออกไปกับเพื่อนอีก 4 คน เป็นหญิง 2 ชาย 2 บอกว่าจะไปทานอาหาร ที่ชุมชนเจ็ดแยก ต.ถนนขาด แล้วขี่รถออกไป จนกระทั่งเช้าจึงได้รับแจ้งจากตำรวจ ขอให้มายืนยันศพว่าเป็นภรรยาหรือไม่ ก่อนที่ตำรวจชุดดังกล่าว จะออกติดตามตัวเพื่อนทั้ง 4 คนมาสอบถาม ซึ่งพบเพียงแค่ 3 คน เป็นหญิง 2 คน ชาย 1 คน จากการสอบถามได้ข้อมูลว่า ไปดื่มเหล้ายาดองกันที่ชุมชนเจ็ดแยก แล้วไปดื่มต่อที่ร้านยาดองปฐมมงคล ในเขตเทศบาลนครนครปฐม จนกระทั่งร้านปิดจึงแยกย้ายกันกลับบ้าน
ทั้งนี้ เพื่อนคนทั้ง 3 คนได้ซ้อนท้ายจักรยานยนต์กลับบ้าน คงเหลือแต่ นายตี๋ ผู้ต้องหา ซึ่งมีอาชีพรับปอกมะพร้าวตามสวนต่างๆ เป็นเพื่อนรุ่นน้อง เพิ่งเข้ามาร่วมกลุ่มดื่มเหล้ายาดองกัน ขันอาสาที่จะขี่รถไปส่งผู้ตายที่บ้าน โดยอ้างว่าผู้ตายเมาและเส้นทางเปลี่ยว จากนั้นทั้ง 2 ก็ขี่รถแยกย้ายไป จนกระทั่งเช้าจึงพบศพผู้ตายอยู่ในคลอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามตัวนายตี๋ ซึ่งเช่าบ้านพักอยู่ในหมู่บ้านปฐมทอง ต.ถนนขาด อ.เมืองนครปฐม แต่ไม่พบตัว ทราบว่าออกไปรับจ้างปอกมะพร้าวที่ อ.ดำเนินสะดวก จึงตามไป แต่ให้กำลังส่วนหนึ่งเฝ้าไว้ที่บ้านพัก
จนในที่สุด นายตี๋ ผู้ต้องหาได้กลับมาบ้าน เมื่อ 22.00 น.ของวันที่ 7 พ.ย.58 จึงเชิญตัวมาสอบถามที่ ภ.จว.นครปฐม ในการสอบสวนนายตี๋ มีอาการตัวสั่น ปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็น จนเวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง จึงยอมสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ เพราะในระหว่างที่ขี่รถไปส่งผู้ตายนั้น เกิดมีอารมณ์ทางเพศ และเห็นว่าคนตายมีอาการเมายาดองด้วย จึงฉวยโอกาสพาผู้ตายแวะยังศาลาริมน้ำหลังวัด โดยอ้างว่าขอลงไปนั่งเล่นก่อน เพราะเมาขี่รถไม่ไหว พร้อมกับประคองผู้ตายไปนั่งพักยังศาลา แต่เนื่องจากเห็นผู้ตายเมามากและเอนตัวนอนไม่ได้สติจึงปลุกปล้ำคนตาย ถอดเสื้อผ้าออกแล้วทำการข่มขืน ระหว่างนั้นคนตายเริ่มรู้สึกตัวพยายามขัดขืนต่อสู้ พร้อมกับตะโกนว่าจะไปแจ้งตำรวจ ด้วยความกลัวจึงใช้มือบีบที่คอไม่ให้ร้อง จนผู้ตายขาดใจ
นายตี๋ ให้การด้วยว่า เมื่อเห็นผู้ตายแน่นิ่งไปจึงลากร่างไปที่ริมตลิ่ง แล้วใช้มือผลักให้ลงไปในคลองน้ำ จากนั้นก็เอาเสื้อผ้าของผู้ตายโยนตามลงไปในคลอง แล้วขี่รถจักรยานยนต์ของผู้ตายไปทิ้งในคลองบางแก้ว ต.ห้วยจระเข้ อ.เมืองนครปฐม ซึ่งอยู่ห่างจากที่เกิดเหตุ 2 กิโลเมตร เพื่ออำพรางคดีว่าเมาขี่รถตกน้ำตาย หลังเสร็จสิ้นภารกิจจึงกลับที่พักห้องเช่าหมู่บ้านปฐมทอง จนเช้า มีคนสวนมะพร้าวมาตามให้ไปปอกมะพร้าวที่ดำเนินสะดวก โดยทั้งหมดผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ
หลังจากเสร็จสิ้นการแถลงข่าว พล.ต.ต.กฤษณะ พร้อมตำรวจชุดจับกุมได้นำตัวนายตี๋ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยในการทำแผนครั้งนี้ต้องเรียกกำลังตำรวจ นปภ.สภ.เมืองนครปฐม กว่า 60 นาย และนำเชือกมากั้นไม่ให้ชาวบ้านที่มามุงดูจำนวนมาเข้าใกล้เพราะกลัวจะมีการบุกทำร้ายผู้ต้องหา ใช้เวลาในการทำแผน 1 ชั่วโมง โมดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรงแต่อย่างใด
พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวว่า สำหรับคนร้ายรายนี้ จะต้องนำเลือดไปตรวจดีเอ็นเอ เพื่อตรวจสอบว่ากลุ่มเลือดนั้นตรงกับคนร้ายที่ก่อคดีฆ่าข่มขืนหญิงชราอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะพฤติกรรมของผู้ต้องหาชอบคนสูงอายุรุ่นแม่เหมือนกับคดีฆ่าข่มขืนต่อเนื่อง พร้อมกับรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว.
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น